นายเปาโล เจนทิโลนี กรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า การกลายพันธุ์ใหม่ของโคโรนาไวรัสยังคงมีสิทธิ์ทำให้การฟื้นตัวด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุโรปหยุดชะงัก
นายเจนทิโลนีระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะต่อโควิด-19 แม้จะมีการคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อันแข็งแกร่งสำหรับปีนี้
นายเจนทิโลนีได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจ EU ว่า "เรายังอยู่ท่ามกลางโรคระบาด ดังนั้นเราจึงควรจับตาดูความเป็นไปได้ของการเกิดการกลายพันธุ์ครั้งใหม่อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับยกระดับการฉีดวัคซีน"
นอกจากนี้นายเจนทิโลนียังมองว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่ประเทศต่าง ๆ จะต้องออกมาตรการจำกัดรอบใหม่ อย่างไรก็ดี เขาระบุว่า "มาตรการเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจดังเช่นในรอบที่ผ่าน ๆ มา ... เพราะเศรษฐกิจของเราคุ้นเคยกับสถานการณ์ทำนองนี้แล้ว"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของ EU ได้เปิดเผยการคาดการณ์ว่า GDP จะปรับขึ้น 5% สำหรับทั้ง EU และยูโรโซนในปีนี้
ยุโรปนั้นได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งทำให้รัฐบาลของบางประเทศพิจารณาที่จะกำหนดมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส และทำให้เกิดการถกเถียงกันว่า การใช้วัคซีนอย่างเดียวนั้นเพียงพอที่จะยับยั้งโควิด-19 หรือไม่
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยข้อมูลระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยทั่วโลกในรอบ 7 วัน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึงราวครึ่งหนึ่งด้วย ซึ่งนับเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมาซึ่งไวรัสโควิด-19 ระบาดสูงสุดครั้งแรกในอิตาลี
บรรดารัฐบาลและบริษัทเอกชนต่างก็วิตกว่า การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง