หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐได้เรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง โดยการเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมทางไกลระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ
-- บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ประกาศว่า บริษัทได้ยื่นเรื่องกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เพื่อขออนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ของบริษัทให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์จะใช้โดสขนาด 50 ไมโครกรัม หรือเท่ากับเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณวัคซีนโดสปกติ ซึ่งจะต้องฉีดสองโดสโดยเว้นระยะ 4 สัปดาห์
-- บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทในเครือจะขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทเหิงเถิง เน็ตเวิร์ก โฮลดิ้งส์ (HengTen Network Holdings) เป็นมูลค่า 2.13 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (273.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ขณะที่มีปัญหาหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้เป็นตราสารหนี้ในตลาดต่างประเทศถึง 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์
-- นายโทนี ริชาร์ดส์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายการชำระเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ระบุในวันนี้ว่า RBA ได้เพิ่มการวิจัยเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เช่นเดียวกับธนาคารกลางสำคัญแห่งอื่น ๆ ขณะที่ยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับข้อดีของการออกสกุลเงินดังกล่าว
นายริชาร์ดได้แสดงความเห็นดังกล่าวในที่ประชุมด้านการบริการทางการเงิน หลังจากที่วุฒิสภาออสเตรเลียออกรายงานเมื่อเดือนที่แล้วเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องมากขึ้นกับการออกสกุลเงินดิจิทัล
-- นางแคทเธอรีน แมนน์ กรรมการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า ภาคครัวเรือน, ภาคธุรกิจ และตลาดการเงินของอังกฤษต่างก็เชื่อมั่นว่า BoE จะสามารถทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แม้รายงานล่าสุดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีก็ตาม
-- นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีเปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเยอรมนีมีความ "รุนแรง" ขณะที่เธอกำลังพิจารณาหาวิธีการรับมือกับอัตราการติดเชื้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นางแมร์เคิลระบุว่า "การระบาดระลอกที่ 4 กำลังโจมตีประเทศของเราแบบเต็มกำลัง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่าที่เคยเป็นมา และยอดผู้เสียชีวิตรายวันก็น่าตกใจไม่แพ้กัน"
-- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 8 ครั้ง โดยคณะกรรมการ BSP ระบุว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และยังคงต้องสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการ BSP มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ย overnight reverse repurchase ที่ระดับ 2.0% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
-- สมาคมการเดินทางเพื่อธุรกิจระดับโลก (Global Business Travel Association - GBTA) คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลกมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นมากกว่า 37% ในปีหน้า แตะที่ระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี คาดว่า อุตสาหกรรมการเดินทางเพื่อธุรกิจจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่จนกว่าจะถึงปี 2567
-- ญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายข้อจำกัดสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ และปรับเพิ่มจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศสูงสุดจาก 3,500 คนต่อวันในปัจจุบัน เป็น 5,000 คนต่อวัน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.นี้
นายฮิโรคาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลทบทวนระบบกักตัวและมาตรการควบคุมโรค พร้อมเสริมว่า "เราจะพิจารณาว่า จะดำเนินมาตรการใดบ้างเพื่อลดข้อจำกัดต่าง ๆ ลงอีก"
-- แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 55.7 ล้านล้านเยน (4.88 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
มาตรการดังกล่าวซึ่งรวมเงินอุดหนุนสำหรับภาคเอกชนด้วยนั้นจะอยู่ที่ 78.9 ล้านล้านเยน โดยคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.)