ทั้งนี้ อัตราค่าขนส่งสำหรับตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งตู้พุ่งทะยานขึ้นในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัสกดดันให้ห่วงโซ่อุปทานและช่องทางการค้าตกอยู่ภายใต้ภาวะชะงักงัน เส้นทางต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นถึง 7 เท่าเป็นอย่างน้อย
รายงานจาก UNCTAD ระบุว่า "การวิเคราะห์ของ UNCTAD แสดงว่า การทะยานขึ้นในปัจจุบันของอัตราค่าระวางสินค้าสำหรับตู้คอนเทนเนอร์อาจผลักดันให้ราคานำเข้าทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง 11% และราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 1.5% ตั้งแต่บัดนี้จนกระทั่งปี 2566 หากสถานการณ์ยังคงดำเนินในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง"
เมื่อแบ่งเป็นรายประเทศ ราคาผู้บริโภคในสหรัฐน่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ของจีนน่าจะปรับขึ้น 1.4% นอกจากนี้ การวิเคราะห์ดังกล่าวยังพบว่า ราคาผู้บริโภคในประเทศขนาดเล็กที่พึ่งพาการนำเข้ามากกว่าน่าจะเพิ่มถึง 7.5%
เมื่อแยกเป็นรายผลิตภัณฑ์แล้ว สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนุ่งห่ม จะประสบกับการทะยานขึ้นของราคามากที่สุดที่อย่างน้อย 10% ทั่วโลก จากผลพวงของภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน โดย UNCTAD ระบุว่าตู้คอนเทนเนอร์คิดเป็น 17% ของปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลทั้งหมด
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทบางแห่งเลือกจัดส่งผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กผ่านทางอากาศจากผลพวงของต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลที่พุ่งขึ้น แม้ค่าระวางการขนส่งสินค้าทางอากาศมีแนวโน้มแพงกว่า
นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตสำคัญ มีแนวโน้มลดลงกว่า 1% ในสหรัฐและยูโรโซน และปรับลง 0.2% ในจีน หากอัตราค่าระวางสินค้าสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ปรับขึ้น 10% และห่วงโซ่อุปทานยังคงตกอยู่ในภาวะชะงักงันต่อไป