ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index เป็นดัชนีที่สะท้อนการปรับตัวของหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และรวมถึงหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 50 อันดับแรก
อย่างไรก็ดี HSIC ไม่ได้เปิดเผยเหตุผลที่ตัดสินใจถอดหุ้นเอเวอร์แกรนด์ในครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศนำหุ้นบริษัทอินโนเวนท์ ไบโอโลจิกส์ (Innovent Biologics) เข้ารวมในดัชนี China Enterprise Index แทนหุ้นของเอเวอร์แกรนด์
ที่ผ่านมานั้น ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ เผชิญกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ขณะที่บริษัทเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) คาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสองของจีนนั้น มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากบริษัทได้สูญเสียธุรกิจหลักไปแล้วในขณะนี้
ราคาหุ้นเอเวอร์แกรนด์ร่วงลง 1.44% ในช่วงเช้าวันนี้ และนับตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงขณะนี้ ราคาหุ้นเอเวอร์แกรนด์ร่วงลงกว่า 80%
เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินจำนวนมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน