นายที.วี.นเรนแดรน ซีอีโอบริษัททาทาสตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กของอินเดียให้สัมภาษณ์กับรายการ "Street Signs Asia" ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า ราคาเหล็กกล้าอาจจะสูงขึ้นอีกมากในหลายปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับระดับราคาล่าสุด
นายนเรนแดรนกล่าวว่า ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยของเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนอยู่ที่ประมาณ 400-450 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน แต่ในอนาคตนั้น นายนเรนแดรนคาดการณ์ว่า ค่าเฉลี่ยระยะยาวมีแนวโน้มจะสูงกว่า 600 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาเหล็กในจีนอยู่ที่ 750 ดอลลาร์ และราคาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 850 ดอลลาร์
"จีนครองตลาดส่งออกเหล็กกล้าตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้การค้าเหล็กกล้าทั่วโลกมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก"
นายนเรนแดรนกล่าวว่า ในช่วงระดับสูงสุดนั้น จีนเคยส่งออกเหล็กกล้ามากกว่าที่อินเดียผลิตได้ แต่การส่งออกเหล็กกล้าของจีนลดลงครึ่งหนึ่งเหลือประมาณ 60 ล้านตันต่อปี และอาจลดลงอีกในอนาคต เนื่องจากจีนได้ดำเนินการตามเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
นอกจากนี้ ยังนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่จีนไม่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนดีมานด์เหล็กกล้า โดยสมาคมเหล็กกล้าโลก (WSA) คาดว่า การบริโภคเหล็กกล้าที่เติบโตขึ้นในปีนี้จะมาจากประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีน
"การที่โลกตะวันตกกำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับอุปสงค์เช่นกัน" เขาเสริม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework - BIF) วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์