ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,619.25 จุด เพิ่มขึ้น 17.27 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,682.94 จุด ลดลง 15.02 จุด หรือ -0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,854.76 จุด ลดลง 202.68 จุด หรือ -1.26%
-- นายเจฟฟ์ เซียนท์ส ผู้ประสานงานด้านการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อยับยั้งโควิด-19 ในอนาคต
สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ความเห็นของนายเซียนท์สมีขึ้นหลังจากออสเตรียใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 4 ส่วนเนเธอร์แลนด์ทำการล็อกดาวน์บางส่วนขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นทั่วยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐประกาศคำแนะนำห้ามการเดินทางไปยังเยอรมนีและเดนมาร์ก เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในสองประเทศดังกล่าว
ทั้งนี้ CDC เพิ่มระดับคำแนะนำเดินทางสู่ "ระดับ 4: สูงมาก" สำหรับสองประเทศยุโรปดังกล่าว โดยแนะนำชาวอเมริกันว่าควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐก็ได้ออกคำแนะนำ "ห้ามการเดินทาง" ไปยังเยอรมนีและเดนมาร์กด้วยเช่นกัน
-- สื่อรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีแผนลดกำลังการผลิตน้ำมัน หากสหรัฐและพันธมิตรทำการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อกดดันราคาน้ำมันในตลาดโลก
รายงานระบุว่า โอเปกพลัสพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อหักล้างกับปริมาณน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่สหรัฐและชาติพันธมิตรทำการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) หรือหากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรอาจระบายน้ำมันรวม 100-120 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาด โดยสหรัฐจะระบายน้ำมัน 45-60 ล้านบาร์เรล, จีน 30 ล้านบาร์เรล, อินเดีย 5 ล้านบาร์เรล, ญี่ปุ่น 10 ล้านบาร์เรล และเกาหลีใต้ 10 ล้านบาร์เรล
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศวานนี้ (22 พ.ย.) ว่า เขาได้เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในเดือนก.พ.2565 โดยเขาเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.2561 หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน
อย่างไรก็ดี แม้ปธน.ไบเดนเสนอชื่อนายพาวเวลเป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 แต่นายพาวเวลก็ต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาบางรายมีแนวโน้มที่จะคัดค้านการเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดของนายพาวเวล
-- ออสเตรียเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวเป็นเวลา 10 วัน และอาจขยายเวลาเป็น 20 วัน
การประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบของออสเตรียในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว และเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่ประกาศล็อกดาวน์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้
-- กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงวานนี้ว่า อังกฤษจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่เมืองลิเวอร์พูลระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.
แถลงการณ์ระบุว่า รัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว จะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีฝ่ายการพัฒนาของ G7 และอาเซียน ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีจากไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยที่ประชุมจะมีการหารือในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19, ปัญหาด้านสาธารณสุขทั่วโลก และสิทธิมนุษยชน
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ขณะที่ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู, อังกฤษ และสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต