ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศวานนี้ว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบจำนวน 50 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบร่วมกับสหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในการดำเนินมาตรการดังกล่าว
-- จีนมีความคืบหน้าลดลงในการบรรลุเป้าหมายของข้อตกลงการค้าที่ทำไว้กับสหรัฐ โดยในเดือนต.ค. จีนมียอดสั่งซื้อสินค้าในภาคการผลิต ภาคการเกษตร และภาคพลังงานจากสหรัฐ รวมมูลค่า 9.5 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดรวมการซื้อสินค้าอยู่ที่ 2.104 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 56% ของเป้าหมายระยะ 2 ปีซึ่งจะมีกำหนดสิ้นสุดในช่วงสิ้นปีนี้
จีนระบุว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
-- ฮ่องกงสั่งจำคุกนายโทนี ชุง นักศึกษาที่ทำการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นเวลา 3 ปี 7 เดือน หลังจากที่เขายอมรับสารภาพว่า ตนเองสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน และมีส่วนร่วมในการฟอกเงิน
นายชุงถูกสั่งจำคุกในข้อหาเผยแพร่ข้อความที่เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบบนโซเชียลมีเดีย และจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการแบ่งแยกดินแดน
-- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (OCR) อีก 0.25% แตะที่ระดับ 0.75% ในการประชุมนโยบายครั้งสุดท้ายของปีนี้ พร้อมระบุว่า ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และสนับสนุนการจ้างงานอย่างยั่งยืน
-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นแตะ 54.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2561 โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด-19 ในประเทศ
ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น ปรับตัวขึ้นแตะ 52.1 ในเดือนนี้ จากระดับของเดือนก่อนหน้าที่ 50.7 โดยเป็นการปรับตัวขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ปรับตัวลง ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการเร่งฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
-- รัฐบาลอังกฤษแถลงว่า อังกฤษจะระบายน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาด ในความร่วมมือกับสหรัฐและชาติพันธมิตรเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด
อย่างไรก็ดี น้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลดังกล่าวจะเป็นน้ำมันจากสต็อกของภาคเอกชน และการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นไปอย่างสมัครใจ และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันในคลังสำรองของรัฐบาลแต่อย่างใด ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กำหนดให้รัฐบาลจะต้องมีน้ำมันในคลังสำรองเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศเป็นเวลา 90 วัน
-- ค่าเงินลีราของตุรกียังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ได้ออกมาปกป้องการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของรัฐบาล แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกือบ 20%
นอกจากนี้ ลีรายังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งได้ดีดตัวขึ้นขานรับการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เตือนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในยุโรปจะเพิ่มขึ้นอีก 700,000 รายภายในเดือนมี.ค.2565 ซึ่งจะทำให้ยุโรปมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 2.2 ล้านราย
WHO ระบุว่า ขณะนี้ผู้เสียชีวิตสะสมในยุโรปจากโควิด-19 มีจำนวนมากกว่า 1.5 ล้านราย โดยอัตราการเสียชีวิตรายวันได้พุ่งขึ้น 2 เท่าจากปลายเดือนก.ย. สู่ระดับ 4,200 รายต่อวัน
-- จับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการในวันนี้ได้แก่ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย.จากเกาหลีใต้, ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย.จาก Ifo ของเยอรมนี และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย.