รัฐบาลสหรัฐเริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาตอนใต้เดินทางเข้าสหรัฐ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้ โดยประเทศทั้ง 8 ได้แก่ บอตสวานา, ซิมบับเว, นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตีนี, โมซัมบิก, มาลาวี และแอฟริกาใต้
ภายใต้มาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางที่บังคับใช้ล่าสุดนี้ ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศดังกล่าวในช่วง 14 วันที่ผ่านมาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐ ส่วนพลเมืองของสหรัฐและผู้ถือวีซ่าอยู่อาศัยถาวรในสหรัฐจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐได้
-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.8% ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าววานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะประกาศล็อกดาวน์เศรษฐกิจ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
"ถ้าประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน และสวมหน้ากากอนามัย ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องล็อกดาวน์ และจะไม่มีการประกาศห้ามการเดินทางครั้งใหม่" ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าววันนี้
"ไม่ช้าก็เร็ว เราจะเห็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในสหรัฐ ดังนั้นกรุณาสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในอาคาร หรืออยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก" ปธน.ไบเดนกล่าว
-- นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวานนี้ โดยมีผลในทันที
อย่างไรก็ดี นายดอร์ซีย์จะยังคงเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของบริษัทจนกว่าจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นในปี 2565
"ผมได้ตัดสินใจลาออกจากทวิตเตอร์ เนื่องจากผมเชื่อว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป" แถลงการณ์ของนายดอร์ซีย์ระบุ แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการลาออกของเขา
-- รัฐมนตรีสาธารณสุขจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ได้เสร็จสิ้นการประชุมทางไกลวานนี้ โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันในความร่วมมือสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ อังกฤษ ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม G7 ในปีนี้ ได้ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉินดังกล่าว หลังจากพบการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่ที่มีการพบไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวที่แอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
--นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นการเฉพาะแล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 100 วัน
นายเบอร์ลาระบุว่า ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์สามารถพัฒนาวัคซีนสูตรเฉพาะเพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์เบตาและเดลตาได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ เนื่องจากวัคซีนสูตรดั้งเดิมของบริษัทสามารถต้านไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวได้
นอกจากนี้ นายเบอร์ลายังคาดการณ์ว่า ยาแพกซ์โลวิดของทางบริษัทจะมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
"ยาของเราได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการกลายพันธุ์ที่มาจากโปรตีนหนาม ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าประสิทธิภาพยาของเราจะไม่ถูกกระทบจากไวรัสสายพันธุ์นี้" นายเบอร์ลากล่าว
ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้การอนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดเป็นกรณีฉุกเฉิน
-- กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยวานนี้ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูดนอกชายฝั่งเกาะโตริชิมะ จังหวัดโตเกียวของญี่ปุ่น
เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.41 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 19.41 น.ตามเวลาไทยวานนี้ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 31.1 องศาเหนือ และลองจิจูด 142.8 องศาตะวันออก และมีความลึกที่ระดับ 10 กิโลเมตร
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
-- FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐพบว่า นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดมีแนวโน้มเพียง 58.5% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย.2565 จากเดิมที่คาดว่ามีแนวโน้มสูงถึง 82.1%
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.และยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน, ฝรั่งเศสเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), เยอรมนีเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย., อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือนพ.ย. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board