นักวิเคราะห์จากธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์ (UOB) คาดการณ์ว่า การยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่มีแนวโน้มที่จะสร้างความผันผวนในตลาดเอเชีย
เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินรายเดือนในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดวงเงิน QE ลง 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า จากปัจจุบันที่ปรับลด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565
เฮง คูน ฮาว หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ UOB เปิดเผยในรายการ Squawk Box Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) ว่า "โดยทั่วไป ธนาคารกลางในเอเชียทุกแห่งต่างเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี โดยมีทุนสำรอง FX แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังได้สื่อสารกันเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายของเฟด เราควรจะสามารถจัดการกับการไหลออกของเงินทุนร้อนเมื่อเฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
นอกจากนี้ นายเฮงระบุเสริมว่า ปัจจัยพื้นฐานทางการค้าที่แข็งแกร่งของเอเชียมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค และช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือได้เมื่อเฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตร
ทั้งนี้ นายเฮงระบุว่า "เอเชียมีรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการค้าและถูกชี้นำโดยจีน โดยรูปแบบเศรษฐกิจของเรานั้นล้วนขับเคลื่อนด้วยการส่งออก, ช่วยให้เกิดสภาพแวดล้อมที่แข็งแกร่ง และตอกย้ำเสถียรภาพของสกุลเงินท้องถิ่น" พร้อมเสริมว่า "เราจะเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างแน่นอน"