บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) กำลังวางกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในสหรัฐ ด้วยการให้คำมั่นว่าจะลงทุนเป็นเงินอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงานหมุนเวียน เพื่อเพิ่มพอร์ตการลงทุนในโครงการก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) และพลังงานไฟฟ้าจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของของ BPP เปิดเผยว่า BPP ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบมจ.บ้านปู (BANPU) วางแผนที่จะสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่มีกำลังการผลิตประมาณ 400 เมกะวัตต์ในรัฐเท็กซัสในปีหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ภายใน 2568 โรงไฟฟ้าในรัฐเท็กซัสจะมีสัดส่วนราว 50% ของพอร์ตการลงทุนพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก ซึ่งพอร์ตลงทุนของ BPP นั้น รวมถึงโรงไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลีย, จีน และญี่ปุ่น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า BANPU เป็นบริษัทไทยรายใหญ่สุดที่พุ่งเป้าลงทุนในตลาดพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าความต้องการแหล่งพลังงานสะอาดในสหรัฐจะเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ BPP ได้เข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าในรัฐเท็กซัส คิดเป็นมูลค่า 430 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะจัดหาก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง Shale Gas ของตนเองในสหรัฐ
"สหรัฐมีความต้องการพลังงานในระดับที่สูงมากและมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง และในเท็กซัสเพียงรัฐเดียวนั้น ปริมาณความต้องการเทียบเท่ากับในประเทศไทย" นายกิรณกล่าว และเสิรมว่า "ในขณะที่ความต้องการในประเทศไทยมีการขยายตัวขึ้นทุกปีนั้น อุปทานจากโครงการพลังงานก็ขยายตัวขึ้นในอัตราเดียวกัน ดังนั้นเราจึงมองหาโอกาสในที่อื่น ๆ ด้วย"
"รัฐเท็กซัสกำลังบูมในเรื่องพลังงานทดแทน รัฐแห่งนี้มีมวลลมมหาศาล มีแสงแดด และมีที่ดินมากกว่าประเทศไทย แน่นอนว่าโอกาสสำหรับพลังงานหมุนเวียนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐเท่านั้น แต่ในระยะใกล้นี้ เราจะมุ่งเน้นการลงทุนในสหรัฐ"