ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวเตือนว่า เขาพร้อมที่จะใช้กองกำลังทหารรัสเซียเพื่อเผชิญหน้ากับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) ซึ่งได้เสริมกองกำลังทหารใกล้แนวพรมแดนรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ปธน.ปูตินระบุว่า เขายังพร้อมที่จะใช้วิธีการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาความตึงเครียดดังกล่าว หลังสหรัฐเปิดช่องเจรจาเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงตามที่รัสเซียเรียกร้อง
-- ปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ข้อดีคือผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการน้อยหรือแทบจะไม่มีอาการเลย แตกต่างกับกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่มีแนวโน้มป่วยหนักหรือเสียชีวิตในช่วงฤดูหนาวนี้
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถวางแผนการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้ ขณะที่เชื้อไวรัสโอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศแล้ว
-- จีนเตรียมแบนบริษัทที่เลือกปฏิบัติทางเพศ หรือบริษัทที่มีพฤติกรรมระบุเพศพนักงานที่ต้องการในประกาศหางาน หรือขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพสมรสหรือการตั้งครรภ์ในกลุ่มผู้สมัครงานที่เป็นสตรี ซึ่งเป็นความพยายามของจีนในการยกเครื่องกฎหมายสิทธิสตรีในรอบเกือบ 30 ปี
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับตัวขึ้นของหุ้นอสังหาริมทรัพย์จีนนั้นได้ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนบางราย อาทิ Tahoe Group และ Sichuan Languang Development ออกมากระตุ้นเตือนถึงความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของหุ้นอ่อนแอ
ดัชนีอสังหาริมทรัพย์ CSI300 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวานนี้ และดีดตัวขึ้นเกือบ 20% แล้วจากระดับต่ำสุดในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบาย
-- ปธน.โจ ไบเดนแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก พร้อมกับขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนได้อนุมัติการแจกชุดตรวจโควิด-19 แบบ rapid test ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน ผ่านการจองทางเว็บไซต์ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565
-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า รัฐบาลจะยังไม่ประกาศยกระดับคุมเข้มมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนเทศกาลคริสต์มาส
"เราไม่คิดว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะออกมาตรการคุมเข้มก่อนคริสต์มาส แต่เราไม่สามารถตัดทางเลือกเกี่ยวกับการใช้มาตรการใดๆออกไปหลังคริสต์มาส โดยเราจะยังคงจับตาโอมิครอนต่อไป และหากสถานการณ์เลวร้ายลง เราก็พร้อมที่จะดำเนินการ หากมีความจำเป็น" นายจอห์นสันกล่าว
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เตรียมอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ พร้อมกันในวันนี้ (22 ธ.ค.) ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน
หาก FDA ให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิดตามคาด ก็จะเป็นการปลดล็อกให้มีการใช้ยาดังกล่าวทั่วโลก เนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศยังคงรอการรับรองจาก FDA ก่อนที่จะให้การอนุมัติการใช้ยาดังกล่าว
-- จับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการวันนี้ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดเผยรายงานการประชุม ส่วนอังกฤษเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 และสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ย.จากเฟดชิคาโก, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)