ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐจัดประชุมในวันนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่และบริษัทเอกชน รวมถึง เฟดเอกซ์ (FedEx) เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ปัญหาภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน
ปธน.ไบเดนได้จัดตั้งคณะทำงานในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทำเนียบขาวระบุว่า มีความคืบหน้าที่สำคัญในการบรรเทาภาวะคอขวดซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อเดือนที่แล้ว นายดัก แมคมิลลอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวอลมาร์ท อิงค์กล่าวว่า การตัดสินใจขยายเวลาทำการของท่าเรือมีผลกระทบเชิงบวกต่อปริมาณสินค้า อย่างไรก็ตาม ปัญหาห่วงโซ่อุปทานยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ของสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ไบเดนซึ่งกำลังต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 31 ปีเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ดำเนินมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการจราจรคับคั่ง รวมถึงการลดความแออัดของท่าเรือ และการขยายเวลาทำงานของคนขับรถบรรทุก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยรมว.เกษตร, พาณิชย์, แรงงาน และการขนส่ง รวมถึงสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ
ส่วนซีอีโอที่เข้าร่วมประชุมนั้นมาจากบริษัทแก๊ป อิงค์, เยลโลว์ คอร์ป และสมาคมการท่าเรืออเมริกัน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้สั่งให้ทำการตรวจสอบการกำหนดค่าขนส่งที่สูงเกินไป และความเป็นไปได้ที่จะมีการทำผิดกฎหมายในตลาดน้ำมันและก๊าซ