นายโรเบิร์ต โฮลซแมน กรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันนี้ (22 ธ.ค.) ว่า ECB อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในช่วงสิ้นปีหน้า และการเรียกร้องให้ ECB ยุติการซื้อพันธบัตรนั้นนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่แข็งแกร่งว่า การซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงในช่วง 2 ไตรมาสหน้า
ทั้งนี้ ECB เปิดเผยมาตรการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินในเดือนมี.ค.ปีหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ECB คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน จะอยู่ที่ 3.2% ในปีหน้าซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2% ก่อนลดลงสู่ระดับ 1.8% ในปี 2566 และ 2567
ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 3 ขณะที่คงวงเงินที่ระดับ 2 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 และจะซื้อพันธบัตรนานเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
นอกจากนี้ ECB จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และจะยุติโครงการดังกล่าวในเดือนมี.ค. 2565