อินโดนีเซียสั่งห้ามการส่งออกถ่านหินในเดือนม.ค. เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับปริมาณถ่านหินที่ระดับต่ำสำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าภายในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกถ่านหินให้ความร้อนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยส่งออกถ่านหินราว 400 ล้านตันในปี 2563 และลูกค้ารายใหญ่ของอินโดนีเซียได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
อินโดนีเซียมีนโยบายข้อบังคับตลาดในประเทศ (DMO) ซึ่งเหมืองถ่านหินจะต้องจัดหาถ่านหิน 25% ของการผลิตต่อปีให้กับบริษัท Perusahaan Listrik Negara (PLN) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าของรัฐที่ราคาสูงสุด 70 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบันอย่างมาก
Kumparan ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซียรายงานว่า กระทรวงพลังงานของอินโดนีเซียได้ส่งจดหมายสั่งให้เก็บถ่านหินทั้งหมดที่ท่าเรือไว้เพื่อจัดส่งให้กับบรรดาโรงงานผลิตไฟฟ้า และผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP)
จดหมายดังกล่าวระบุว่า "การห้ามส่งออกจะได้รับการประเมินและตรวจสอบอีกครั้งโดยพิจารณาจากการใช้สต็อกถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้าของ PLN และ IPP"
ในเดือนส.ค. 2564 อินโดนีเซียได้ระงับการส่งออกถ่านหินจากบริษัทเหมืองถ่านหิน 34 แห่งที่ไม่สามารถปฏิบัติตาม DMO ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ค.ปี 2563
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็น 1 ใน 10 ประเทศทั่วโลกที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด และถ่านหินคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของแหล่งพลังงานของประเทศ