ราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 42,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อตลาดสกุลเงินคริปโท
ณ เวลา 13.37 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 1,480 ดอลลาร์ หรือ -3.43% แตะที่ 41,635 ดอลลาร์ หลังจากที่ดิ่งลงสู่ระดับ 41,008 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้ราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงถึง 40% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนสกุลเงินอีเธอร์เรียมซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับสองรองจากบิทคอยน์นั้น ดิ่งลง 257.39 ดอลลาร์ หรือ -7.51% แตะที่ 3,168.99 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของเฟดซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น และสนับสนุนให้เฟดปรับลดขนาดของงบดุลหลังจากที่เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า นอกจากเฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ QE แล้ว เฟดยังจะขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่ออกมาเพื่อลดขนาดของงบดุลซึ่งขณะนี้พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากบริษัท Fundstrat กล่าวว่า "การที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะลดขนาดของงบดุลในไตรมาสแรกของปีนี้ ได้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดสกุลเงินคริปโท"