ดีมานด์น้ำมันในเอเชียเผชิญความท้าทาย เหตุโอมิครอนกระทบการเดินทาง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 13, 2022 11:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางสัญจรของบริษัทแอปเปิล อิงค์ระบุว่า การจราจรทางถนนทั่วภูมิภาคเอเชียเบาบางมากในช่วงต้นปี เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั่วภูมิภาค ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่ซบเซา

ข้อมูลของแอปเปิลระบุว่า จำนวนรถยนต์ที่แล่นผ่านเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียในเดือนม.ค.มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลของหลายประเทศได้กลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โดยล่าสุดไวรัสโอมิครอนสามารถแพร่ระบาดเข้าสู่จีน หลังจีนยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนในเมืองเทียนจินและเมืองอันหยาง ซึ่งส่งผลให้โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4.3% จากเดิมที่ระดับ 4.8% โดยเตือนว่าจีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในการควบคุมการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

ข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนส่งผลให้รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเทียนจินบางส่วน และล็อกดาวน์เมืองอันหยางอย่างเต็มรูปแบบ โดยในเมืองอันหยางนั้น ประชาชนถูกสั่งห้ามออกจากบ้าน และห้ามใช้รถยนต์ทุกประเภท นอกจากนี้ บริษัทเอกชนทุกแห่งในเมืองอันหยางได้ถูกสั่งให้ระงับการดำเนินงานจนกว่าความเสี่ยงของไวรัสโอมิครอนในเมืองอันหยางจะถูกขจัดให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการจราจรในประเทศจีน แต่บริษัทไป่ตู้ อิงค์ระบุว่า ความหนาแน่นของการจราจรบนท้องถนนในเมืองซีอานของจีน ลดลง 39% ณ วันที่ 11 ม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในปักกิ่งความหนาแน่นของการจราจรเพิ่มขึ้น 16% ในช่วงเวลาดังกล่าว

ส่วนในอินเดียนั้น ข้อมูลจากแอปเปิลระบุว่า กิจกรรมการขับขี่รถยนต์โดยเฉลี่ยในช่วง 10 วันแรกของเดือนม.ค.นั้น ต่ำกว่าเดือนธ.ค.อยู่ถึง 61% เนื่องจากรัฐบาลอินเดียได้กลับมาใช้มาตรการควบคุมการเดินทางในเมืองหลวงอีกครั้ง หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น

นอกจากการเดินทางทางบกแล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนยังนำไปสู่การควบคุมการเดินทางทางอากาศทั่วโลก โดยข้อมูลจาก FlightRadar24 ระบุว่า เที่ยวบินพาณิชย์ทั่วโลกในช่วง 7 วันซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 ม.ค. 2565 อยู่ที่เพียง 17% ซึ่งต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 และ 2563 อยู่ประมาณ 21%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ