บริษัท AT&T และเวอไรซอน คอมมูนิเคชันส์ สองบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐประกาศว่า ทางบริษัทจะเลื่อนเวลาการให้บริการระบบ 5G ในพื้นที่ใกล้สนามบินที่สำคัญของสหรัฐ หลังจากผู้บริหารของสายการบินหลายแห่งได้แสดงความกังวลว่า การให้บริการ 5G จะส่งผลกระทบต่อระบบการเดินทางของเครื่องบิน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ก่อนหน้านี้ AT&T และเวอไรซอน มีกำหนดเปิดตัวการให้บริการ 5G ระบบ C-Band แบบใหม่ใกล้กับสนามบินบางแห่งในวันนี้ (19 ม.ค.) แต่ได้ตัดสินใจเลื่อนการให้บริการออกไป หลังจากผู้บริหารระดับสูงของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์, เดลตา แอร์ไลน์, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์, ยูพีเอส แอร์ไลน์, อลาสกา แอร์, แอตลาส แอร์, เจ็ทบลู แอร์เวย์ และเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ได้ยื่นหนังสือถึงหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อขอให้ทางรัฐบาลเข้าแทรกแซงการดำเนินการดังกล่าวของ AT&T และเวอไรซอน
ข้อความในจดหมายของกลุ่มผู้บริหารสายการบินในสหรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมการบินจะเผชิญกับหายนะภายใน 36 ชั่วโมงเมื่อบริษัท AT&T และบริษัทเวอไรซอนเปิดตัวบริการ 5G แบบใหม่ พร้อมกับเตือนว่า ระบบดังกล่าวจะทำให้อากาศยานลำตัวกว้างจำนวนมากขึ้นบินไม่ได้ โดยอาจทำให้ชาวอเมริกันหลายหมื่นคนตกค้างอยู่ในต่างประเทศ และทำให้เกิดความโกลาหลสำหรับเที่ยวบินของสหรัฐ
ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวถูกส่งไปยังนายไบรอัน ดีส ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ (NEC) ประจำทำเนียบขาว, นายพีต บูติเจิจ รัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐ, นายสตีฟ ดิกสัน ผู้บริหารของสำนักงาน FAA และนางเจสสิกา โรเซนวอร์เซล คณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC)
ด้านสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) เตือนว่า สัญญาณรบกวนจากระบบ 5G อาจส่งผลกระทบต่อเครื่องมือของเครื่องบินที่มีความละเอียดอ่อน เช่น มาตรวัดระดับความสูง และเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขับเครื่องบินในภาวะทัศนวิสัยต่ำ