นายมาริโอ โมราเลส รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดระดับโลกกล่าวว่า แม้ว่าจีนทุ่มเงินใช้จ่ายจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ แต่คาดว่าจีนอาจต้องใช้เวลาอีกนานจึงจะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งพอที่จะผลิตชิปที่ทันสมัยได้
"ผมยังเชื่อว่าจีนยังล้าหลังประเทศอื่นประมาณ 3-4 รุ่นในเรื่องการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัย โดยเซมิคอนดักเตอร์มีความสำคัญในการผลิตทุกสิ่ง ตั้งแต่สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงรถยนต์และเครื่องใช้ภายในบ้าน" นายโมราเลสกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "Squawk Box Asia" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC
"เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีชิปที่ทันสมัย เราหมายถึงชิปรุ่น 16 นาโนเมตร หรือ 14 นาโนเมตร ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วชิปเหล่านี้จะมาจากไต้หวันและเกาหลีใต้ และที่ทันสมัยมากที่สุดก็ในสหรัฐ ซึ่งเป็นชิปของบริษัทอินเทล"
นายโมราเลสกล่าวว่า บริษัทซัมซุงของเกาหลีใต้ และบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ เมนูแฟคเจอริง คอมพานี (TSMC) ได้ผลิตชิปรุ่น 7 นาโนเมตรเป็นจำนวนมากแล้ว หลังจากที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ได้วางสถานะตนเองไว้เหนือคู่แข่งในเรื่องของความสามารถด้านการผลิตชิปรุ่นไฮเอนด์
ส่วนจีนนั้น ในช่วงเวลาหลายปี จีนได้เปิดเผยถึงการลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพึ่งพาตนเองในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับแนวหน้า ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยจีนได้ทุ่มเทความพยายามดังกล่าวเพื่อรับมือกับการที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนซึ่งรวมถึงหัวเว่ย และ SMIC ท่ามกลางความสัมพันธ์อันตึงเครียดของทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ดี นายโมราเลสกล่าวว่า แม้จีนมีการลงทุนจำนวนมากในภาคส่วนดังกล่าว แต่จีนยังต้องใช้เวลาอีกนานจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตชิประดับไฮเอนด์