เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประกาศทุ่มงบลงทุนราว 6.6 พันล้านดอลลาร์ในรัฐมิชิแกนถึงปี 2567 เพื่อเพิ่มการผลิตรถกระบะไฟฟ้าและสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าแห่งใหม่
ทั้งนี้ GM เปิดเผยในวันอังคาร (25 ม.ค.) ว่า งบประมาณก้อนใหม่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตในอเมริกาเหนือของ GM เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันภายในปี 2568
GM ประมาณการว่าจะสามารถโค่นเทสลาในฐานะผู้นำการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐได้ในช่วงกลางทศวรรษนี้ และการลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ทางบริษัทประกาศว่าจะใช้จ่ายเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2568
"เราจะมีผลิตภัณฑ์ ขีดความสามารถด้านแบตเตอรี่และขีดความสามารถในการประกอบรถยนต์ จนกลายเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าภายในช่วงกลางทศวรรษนี้" นางแมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GM ระบุในแถลงการณ์
GM มีภารกิจที่ต้องทำมากมายในชั่วระยะเวลาเพียง 3 ปีเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยเทสลา ซึ่งมิได้เปิดเผยยอดขายในสหรัฐแบบเฉพาะเจาะจง ทำการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 936,172 คันไปทั่วโลกในปี 2564 ขณะที่ GM ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่ถึง 25,000 คันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นผู้ขายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ รองจากเทสลาและฟอร์ด ซึ่งจำหน่ายรถไฟฟ้ามัสแตง มัค-อีได้ 27,140 คันในปีเดียวกัน
ด้าน LMC Automotive บริษัทวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่า ขีดความสามารถด้านการผลิตในสหรัฐของเทสลาจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 580,000 คัน สู่ประมาณ 1 ล้านคันในช่วงต่อไปของปีนี้ หลังมีการเดินสายการผลิตอย่างเต็มกำลังในโรงงานภายในประเทศแห่งที่ 2 ในรัฐเท็กซัส