World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 27, 2022 17:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า "ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เมื่อพิจารณาจากการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อ"

นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า ดัชนีต่าง ๆ ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอีก ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้น

-- คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่ยังไม่ทราบชนิดอย่างน้อย 1 ลูกลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ 6 ในเดือนนี้

ทั้งนี้ JCS ยืนยันว่าได้ตรวจพบการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่ยังไม่ได้ระบุชนิดของขีปนาวุธและรายละเอียดอื่น ๆ ในขณะนี้

-- บริษัทเทสลา อิงค์ ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2564 โดยมีกำไร 2.52 ดอลลาร์/หุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.36 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ 1.772 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.657 หมื่นล้านดอลลาร์

-- ซิโนเปก (Sinopec) ผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยการค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซแห่งใหม่ ซึ่งมีปริมาณสำรองประมาณ 100 ล้านตัน ในแอ่งทาริม เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

ซิโนเปกคาดการณ์ว่าแหล่งทรัพยากรดังกล่าวในบ่อน้ำมันและก๊าซซุ่นเป่ย (Shunbei) ของบริษัทฯ จะสามารถจัดหาน้ำมันคอนเดนเสท (condensate oil) ปริมาณ 88 ล้านตัน และก๊าซธรรมชาติ 2.9 แสนล้านลูกบาศก์เมตร

-- นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ส่งเอกสารถึงรัฐบาลรัสเซียในวันนี้เพื่อเปิด "ช่องทางการเจรจาสำคัญในอนาคต" ในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจรุกรานยูเครนจริง

นายบลิงเกนระบุว่า เนื้อหาของเอกสารดังกล่าวนั้นมีประธานาธิบดีโจ ไบเดนเป็นผู้ร่วมร่าง และได้มีการเปิดเผยต่อพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) แล้ว ขณะที่นายจอห์น ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียเป็นผู้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อรัฐบาลรัสเซีย

-- ผลวิจัยชุดใหม่ของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนเปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตาที่ระบาดก่อนหน้านี้ในอังกฤษเรียบร้อยแล้ว ขณะที่มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนมากกลับมาติดเชื้อซ้ำ

-- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา (BดOA) กำลังพิจารณาย้ายพนักงานจากฮ่องกงไปยังสิงคโปร์ เนื่องจากนโยบาย Zero-Covid ที่เข้มงวดกดดันให้ภาคธุรกิจต้องทบทวนการดำเนินงาน

-- ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนีเปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ระดับ 145 ล้านยูโร (162.7 ล้านดอลลาร์) โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ด้านวาณิชธนกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ว่า อาจจะขาดทุน 127.58 ล้านยูโร

ทั้งนี้ ผลกำไรไตรมาส 4 ทำให้กำไรสุทธิตลอดทั้งปี 2564 แตะ 1.94 พันล้านยูโร หลังมีผลประกอบการครึ่งปีแรกที่แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นจาก 113 ล้านยูโรในปี 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.79 พันล้านยูโร

-- ในช่วงสัปดาห์นี้ หุ้นกลุ่มการศึกษาของจีนถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะยกระดับการปราบปรามธุรกิจติวเตอร์ในประเทศอีกครั้ง

ดัชนี Bloomberg Intelligence ในกลุ่มธุรกิจการศึกษาของจีนร่วงลง 27% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลจีนประกาศยกเครื่องอุตสาหกรรมการศึกษาในเดือนก.ค. 2564 อีกทั้งยังเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558

-- นักวิเคราะห์ของบริษัทโนมูระซึ่งเป็นวาณิชธนกิจและโบรกเกอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังการประชุมเฟดในวันพุธที่ 26 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดไม่ได้ปฏิเสธการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าว

-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงกำลังพิจารณาลดระยะเวลากักตัวสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 21 วัน เนื่องจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนดูเหมือนว่าจะมีระยะฟักตัว (Incubation Period) เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

-- นายโทเบียส เอเดรียน ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้อำนวยการฝ่ายตลาดเงินและตลาดทุนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า ตลาดการเงินจะผันผวนมากขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่รัฐบาลทั่วโลกพยายามเร่งผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

การที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ หันมาใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินและควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นนั้น อาจส่งผลให้ราคาหุ้นซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์เสี่ยงทรุดตัวลงอย่างหนัก แม้ว่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายให้คำมั่นสัญญาว่า การเปลี่ยนผ่านด้านนโยบายการเงินจะเป็นไปอย่างราบรื่นก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ