ธนาคารดีบีเอส กรุ๊ป (DBS) บรรลุข้อตกลงซื้อธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในไต้หวัน โดยมีแนวโน้มว่า ดีบีเอสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสิงคโปร์จะต้องจ่ายเงินในการซื้อธุรกิจครั้งนี้สูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 956 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (706.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะทำให้ดีบีเอสกลายเป็นธนาคารต่างชาติรายใหญ่สุดในไต้หวันเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์
ดีบีเอสออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ธนาคารจะเทคโอเวอร์พนักงาน 3,500 คนในธุรกิจของซิตี้กรุ๊ปในไต้หวัน รวมทั้งธุรกิจบัตรเครดิต 2.7 ล้านใบ, ลูกค้าของธุรกิจเงินฝากและความมั่งคั่ง 500,000 ราย ตลอดจนสาขา 45 แห่ง
"ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในไต้หวันถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกำไรสุทธิต่อปีอย่างน้อย 250 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ให้กับดีบีเอสหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ฟื้นตัวดีขึ้น" นายปิยุช กุปตา ซีอีโอของดีบีเอสกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวมีขึ้น หลังจากซิตี้กรุ๊ปประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า ธนาคารจะยุติการดำเนินธุรกิจลูกค้ารายย่อยใน 13 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดย 13 ประเทศดังกล่าวได้แก่ไทย, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, จีน อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, รัสเซีย, ไต้หวัน และเวียดนาม
นางเจน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ซิตี้กรุ๊ปจะยุติธุรกิจลูกค้ารายย่อยใน 13 ประเทศข้างต้น และจะดำเนินธุรกิจดังกล่าวจากศูนย์กลางการเงิน 4 แห่งแทนซึ่งได้แก่สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลอนดอนซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละภูมิภาค โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนกลยุทธ์การดำเนินงานของธนาคาร