กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจจีนจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก แต่ก็เป็นไปอย่างไม่สมดุล เนื่องจากมียอดการอุปโภคบริโภคที่อ่อนแอ รวมถึงความไม่แน่นอนจากการใช้มาตรการปราบปรามธุรกิจในภาคเทคโนโลยี และภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง
IMF ระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ (28 ม.ค.) ว่า ฐานเปรียบเทียบที่ไม่ดีนัก รวมถึงการบริโภคที่อ่อนแอ และผลกระทบจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญปัญหาหนักในขณะนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้
รายงานระบุว่า "การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอยู่ในระดับสูง แต่ขาดความสมดุล อีกทั้งยังมีแนวโน้มชะลอตัว" โดยอ้างถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ตลอดจนวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางความพยายามของจีนที่หวังจะปรับโครงสร้างหนี้ในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว
อนึ่ง IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ และ 5.2% ในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าระดับของปี 2564 ที่ขยายตัวถึง 8.1%