ราคาหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้นกว่า 9% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2564 ด้วยอานิสงส์จากธุรกิจโฆษณาและธุรกิจระบบคลาวด์ที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี รายได้จากการโฆษณาบนยูทูบอยู่ที่ 8.63 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.87 พันล้านดอลลาร์ โดยอัลฟาเบทเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งรายสำคัญอย่างติ๊กต็อก (TikTok) ในการให้บริการแอป "Shorts" ซึ่งเป็นโพสต์คลิปวิดีโอสั้น
--ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกันมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 โดยนักลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ทำให้การเติบโตต้องหยุดชะงักเนื่องจากการที่เฟดต้องรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
--นางเนียร์มาลา สิฐรามัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดียกล่าวว่า อินเดียกำลังพิจารณาใช้วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่แทนการตั้งสถานีชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่อินเดียพยายามกระตุ้นให้คนหันมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาดมากขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหามลภาวะในเมืองต่าง ๆ
--ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่ไม่มีความเชื่อมโยงกันสูงสุดถึง 129 รายเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เนื่องจากรัฐบาลประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ระบาดในชุมชน
--บริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบออนเทคเปิดเผยเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ว่า ได้ยื่นรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อขอให้มีการอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุขสำหรับกลุ่มอายุดังกล่าว แม้ผลการทดสอบในการทดลองกับเด็กกลุ่มอายุ 2-4 ปี พบว่าระดับภูมิคุ้มกันต่ำกว่าที่คาดก็ตาม
--คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ได้แจ้งรัสเซียว่า ยินดีที่จะหารือโดยเปิดโอกาสให้รัสเซียได้พิสูจน์ว่า ไม่มีขีปนาวุธโทมาฮอว์กตั้งอยู่ที่ฐานป้องกันขีปนาวุธขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในโรมาเนียและโปแลนด์
ขณะเดียวกัน ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวหาว่า ชาติตะวันตกเจตนาสร้างสถานการณ์เพื่อหลอกล่อให้รัสเซียทำสงคราม และเพิกเฉยกับความวิตกกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซียที่เกี่ยวกับยูเครน อย่างไรก็ดี ปธน.ปูตินก็แนะว่าควรมีการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้
--สำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) เปิดเผยในเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ว่า บริษัทเทสลา อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ได้ประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวน 53,822 คัน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่อาจทำให้รถไม่หยุดนิ่งขณะถึงทางแยก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่
ทั้งนี้ เทสลาเรียกคืนรถยนต์รุ่น Model S และ Model X ที่ผลิตในปี 2559-2565, Model 3 ที่ผลิตในปี 2560-2565 และ Model Y ที่ผลิตในปี 2563-2565
--แบงก์ ออฟ อเมริกาออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 จนแตะระดับ 2.75-3.00% ก่อนที่จะมีการทบทวนนโยบายการเงิน
--ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ อินโดนีเซียและอียูเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ส่วนสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)