ดร.นิคซี กูเมเด-โมเอเลตซี นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ถึงรายงานการตรวจพบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ของไวรัสโอมิครอนใน 5 ประเทศในทวีปแอฟริกา โดยเธอระบุเสริมว่า WHO มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะตรวจไม่พบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในตัวอย่างที่นำมาตรวจหาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) นายอาบู อิบราฮิม อัล-ฮาเชมี อัล-คูไรชี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) ได้จุดระเบิดสังหารตัวเองและสมาชิกในครอบครัว เพื่อหนีการจับกุมของกองกำลังสหรัฐที่รุกเข้าสู่ซีเรีย
-- อังกฤษอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทโนวาแวกซ์สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่แล้วเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) ทำให้ขณะนี้อังกฤษมีวัคซีนที่อนุญาตให้ใช้แล้วรวมทั้งสิ้น 5 ชนิด ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มอย่างรวดเร็วเนื่องจากการระบาดของไวรัสโอมิครอน
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศมาตรการชุดใหม่ในวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนทั่วประเทศ
-- นายทาคาจิ วากิตะ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น (NIID) เผยว่า ญี่ปุ่นต้องควบคุมอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กและผู้สูงอายุให้ลดต่ำลง เพื่อให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนยังคงเป็นสาเหตุหลักของการระบาดในประเทศ
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐได้เตือนบรรดาบริษัทจีนว่าจะเผชิญกับผลกระทบที่จะตามมา หากพยายามที่จะหลีกเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐที่บังคับใช้กับรัสเซีย ในกรณีที่รัสเซียบุกยูเครน
-- นิตยสารฟอร์บส์เปิดเผยว่า ความมั่งคั่งของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลงในวันเดียวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ความมั่งคั่งของเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นแอมะซอนพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
-- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ออกมาระบุว่า BOJ ต้องคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างชัดเจน โดยปฏิเสธการคาดการณ์ว่า BOJ อาจดำเนินการตามแนวทางเชิงรุกมากยิ่งขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางในยุโรป
-- โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ในวันนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในเดือนก.ย.และธ.ค. หลังเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายยอมรับในระหว่างการประชุมทบทวนนโยบายเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ว่าความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า ค่าแรงในกลุ่มประเทศยูโรโซนจะปรับตัวขึ้นราว 3% หรือสูงกว่าในปีนี้ เนื่องจากพนักงานต้องการค่าแรงเพิ่มขึ้นเพื่อหนีอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงการปรับเงินเพิ่มขึ้นเพื่อจูงใจให้มีผู้มาสมัครงาน ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนแรงงานในบางภาคอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง และวิศวกรซอฟต์แวร์