ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นโดยไม่ได้สนใจกับการที่ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงเมื่อคืนวานนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงผันผวน เนื่องจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลาง และการคาดการณ์ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในปีนี้
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์ (7 ก.พ.) ว่า ท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 2 (Nord Stream 2) จะถูกปิดดำเนินการ หากรัสเซียบุกยูเครน และได้เน้นย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันร่วมกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ขณะที่ชาติตะวันตกร่วมมือกันเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามในยุโรป
ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับผู้นำคนใหม่ของเยอรมนีนั้น ไบเดนซึ่งเป็นผู้ต่อต้านโครงการท่อส่งก๊าซที่ดำเนินมานานนับ 10 ปีจากรัสเซียไปยังเยอรมนีนั้นกล่าวว่า จะทำการปิดท่อส่งก๊าซดังกล่าว หากกองกำลังรัสเซียบุกข้ามไปยังยูเครน
-- นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศในแปซิฟิก เพื่อตอกย้ำพันธกรณีของสหรัฐในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับประเทศในภูมิภาคดังกล่าว และเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงต้องการมีบทบาทในเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อสกัดการแผ่อิทธิพลของจีน
ทั้งนี้ นายบลิงเกนมีกำหนดเดินทางเยือนออสเตรเลีย ฟิจิ และฮาวายในสัปดาห์นี้
-- ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่ได้เดินทางเยือนกรุงมอสโกในวันนี้ และขณะนี้ผู้นำทั้งสองกำลังเจรจากันเพื่อหาแนวทางคลี่คลายวิกฤตการณ์ยูเครน
แถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาดังกล่าวได้มีขึ้น ท่ามกลางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ โดยผู้นำทั้งสองไม่มีการจับมือทักทายกัน และได้นั่งเก้าอี้ห่างกันโดยอยู่ตรงข้ามกันของโต๊ะทำงานรูปไข่
-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางรัสเซียจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
ผลการสำรวจระบุว่า นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางรัสเซียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 9.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2560
หากธนาคารกลางรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2
-- นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุด 40 ปีในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ได้อีกมาก" โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 14%
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันที่ 10 ก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 7.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2525
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนธ.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจจากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) เดือนม.ค., ฝรั่งเศสเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนม.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)