ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า เหตุคนขับรถบรรทุกประท้วงมาตรการบังคับฉีดวัคซีนที่แคนาดา เสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อภาคยานยนต์และการเกษตร เนื่องจากเป็นอุปสรรคขัดขวางการข้ามพรมแดนสหรัฐกับแคนาดา โดยการประท้วงดำเนินมาเป็นวันที่ 13 แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังฟอร์ด มอเตอร์ได้ระงับการผลิตรถยนต์บางส่วน ขณะที่บริษัทสเตลแลนทิส ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไครสเลอร์ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การประท้วงนี้อาจส่งผลกระทบต่อแรงงานและห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการสหรัฐให้ความสำคัญมากที่สุด โดยสหรัฐกำลังประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าเกษตรจากสหรัฐไปแคนาดา
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประชาชนราว 5,000 คนในกรุงออตตาวา รวมทั้งรถพ่วงและรถส่วนบุคคลอีก 1,000 คันได้พร้อมใจกันเคลื่อนขบวนเข้าสู่ใจกลางกรุงออตตาวา เพื่อเข้าร่วมการประท้วงในสัปดาห์ที่ 2 เพื่อต่อต้านคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับคนขับรถข้ามพรมแดนแคนาดา-สหรัฐ ส่งผลให้กรุงออตตาวา เมืองหลวงของแคนาดา ได้ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ (6 ก.พ.) ที่ผ่านมา
นายจิม วัตสัน นายกเทศมนตรีกรุงออตตาวาได้ชี้แจงขณะประกาศภาวะฉุกเฉินว่า ผู้ประท้วงหลายพันคนเริ่มทำให้สถานการณ์ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเหล่าผู้ประท้วงได้นำรถบรรทุกมาปิดกั้นการจราจรตามถนนสายต่าง ๆ และสร้างความรำคาญด้วยการบีบแตรรถถึงช่วงกลางคืน