World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 10, 2022 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการเปิดผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525

-- จับตาทิศทางตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 2% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงในวันนี้ แต่ยังคงยืนเหนือระดับ 1.9% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้

ณ เวลา 00.39 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.925% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.229%

-- นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาเห็นว่าการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ถือว่ามีความเหมาะสม แต่เขาก็คาดว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้ง

"เราคงต้องดูว่าเศรษฐกิจจะมีการตอบสนองอย่างไรหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเดือนมี.ค." นายบอสติกกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 2.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 18.5% ในเดือนธ.ค.

-- สำนักพระราชวังสเปนออกแถลงการณ์ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน ซึ่งมีพระชนมายุ 54 พรรษา ทรงมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก

"สมเด็จพระราชาธิบดีทรงมีพระอาการประชวรเพียงเล็กน้อย และจะเข้าสู่กระบวนการกักพระองค์เป็นเวลา 7 วัน โดยจะทรงงดพระกรณียกิจทั้งหมด" แถลงการณ์ระบุ

-- โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขกำไรสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์ในวันนี้

ทั้งนี้ โตโยต้าเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.32 ล้านล้านเยน (2.009 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 660,000 ล้านบาทในช่วง 9 เดือน ระหว่างเดือนเม.ย.-ธ.ค.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พุ่งขึ้น 57.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเยน และยอดขายรถยนต์ที่พุ่งขึ้น หลังได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากการแพร่ระบาดของโควิด-19

-- บริษัทยัม แบรนด์ส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท, เคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) และทาโก เบล รายงานกำไรในไตรมาส 4 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่รายได้สูงกว่าคาด

ทั้งนี้ ยัมเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 1.02 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น

-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์จะจัดการประชุมความมั่นคงแบบ "2+2" ผ่านระบบออนไลน์ในเดือนนี้ เพื่อสกัดการแผ่อิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก

ทั้งนี้ ในการประชุมแบบ "2+2" แต่ละฝ่ายจะส่งรัฐมนตรี 2 คนเข้าร่วมการประชุม ได้แก่ รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค.และดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค., จีนมีกำหนดเปิดเผยยอดขายรถเดือนม.ค., ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนม.ค. และยอดปล่อยกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือนม.ค. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ