ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นเกือบ 200 จุดในช่วงเช้านี้ ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เห็นชอบที่จะจัดการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ณ เวลา 10.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 183 จุด หรือ 0.54% แตะที่ 34,190 จุด
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้เปิดเผยถ้อยแถลงของนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.ปูตินมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมระหว่างนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นภายในสัปดาห์นี้
-- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐได้เตือนให้บรรดาชาติพันธมิตรทราบว่า รัสเซียมีแผนบุกหลายเมืองในยูเครน ไม่ใช่เพียงกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน โดยเมืองที่อาจถูกรัสเซียโจมตีนั้นมีทั้งเมืองคาร์คิฟ เมืองโอเดสซา และเมืองเคอร์ซอน
การคาดการณ์ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐประเมินจากลักษณะของกองกำลังรัสเซียซึ่งประจำการอยู่ใกล้กับยูเครนในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการโจมตี แต่ก็เชื่อว่าอาจมีการโจมตีสนับสนุนทางอากาศและการโจมตีทางไซเบอร์ร่วมด้วย
-- ภาพถ่ายทางดาวเทียมจากบริษัทแม็กซาร์ เทคโนโลยีของสหรัฐเปิดเผยให้เห็นว่า รัสเซียติดตั้งยุทโธปกรณ์และจัดวางกองกำลังภาคสนามใหม่ไว้หลายจุด โดยกระจายออกจากกองทหารรักษาการณ์ใกล้กับชายแดนยูเครน
นายสตีเฟน วูด ผู้อำนวยการอาวุโสของสำนักข่าวแม็กซาร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ โดยดูจากร่องรอยการเคลื่อนที่และหิมะ พร้อมกับกล่าวว่า "สำหรับผมแล้ว นี่เป็นการบ่งชี้ว่ารัสเซียมีการเตรียมพร้อมเพิ่มขึ้น"
-- นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เผยถึงรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียจะต้องเผชิญหากรุกรานยูเครน โดยเธอระบุว่า รัสเซียจะโดนตัดขาดจากตลาดการเงินโลกและสินค้าส่งออกสำคัญหลายรายการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้นำฝั่งตะวันตกไม่เคยเปิดเผยชัดเจนถึงมาตรการตอบโต้ในกรณีที่รัสเซียบุกเข้ายูเครน โดยระบุเพียงว่าจะไม่มีการตอบโต้ทางการทหาร และจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
"รัสเซียจะถูกตัดขาดจากตลาดการเงินโลก" นางฟอน เดอร์ เลเยนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เออาร์ดีช่วงค่ำวานนี้ (20 ก.พ.) และเธอได้เสริมว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับสินค้าจากยุโรปที่รัสเซียจำเป็นต้องใช้ในการทำให้เศรษฐกิจทันสมัยและมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งรัสเซียไม่มีสินค้าที่สามารถใช้ทดแทนได้
-- ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.7% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.6% ในวันนี้
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
-- ออสเตรเลียกลับมาเปิดพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้ (21 ก.พ.) เพื่อรับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางกลับมาหาครอบครัวได้เดินทางมาถึงแล้ว หลังจากที่ต้องปิดประเทศไปเกือบสองปีเนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศกว่า 50 เที่ยวบินจะทยอยเดินทางมาถึงออสเตรเลียในวันนี้ โดยในจำนวนนี้ จะลงจอดที่ซิดนีย์ 27 เที่ยว
ทางด้านนายแดน เตฮาน รัฐมนตรีกระทรวงการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ว่า "ได้เวลาฉลองกันแล้ว เสียงดนตรีขับขาน รอยยิ้มของผู้คน พวกเขาจะได้ออกมาเต้นกัน ผมมั่นใจ" ขณะรอต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้นักเดินทางที่สนามบินซิดนีย์
นอกจากนี้ นายเตฮานยังระบุว่า ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักมาก เพราะสายการบินแควนตัสมีกำหนดที่จะให้บริการผู้โดยสารกว่า 14,000 คนซึ่งจะเดินทางมายังออสเตรเลียในสัปดาห์นี้
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ โดยมาร์กิตมีกำหนดเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ.ของประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และสหภาพยุโรป