ธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมาปฏิเสธความผิดเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) หลังสื่อมวลชนหลายสิบแห่งเผยแพร่ผลการสืบสวนที่ดำเนินการร่วมกันในลักษณะเดียวกับเอกสารปานามา เปเปอร์ เกี่ยวกับกรณีข้อมูลบัญชีลูกค้ากว่า 18,000 รายในระบบของเครดิตสวิสตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมารั่วไหล
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า ผู้แจ้งข้อมูลรายหนึ่งได้เปิดโปงเรื่องบัญชีลูกค้าเครดิตสวิสรั่วไหลตั้งแต่ช่วงปี 2483?2553 ให้กับหนังสือพิมพ์ซูดดอยท์เชอ ไซตุง (Sueddeutsche Zeitung) ซึ่งต่อมาได้แบ่งปันข้อมูลดังกล่าวให้กับโครงการรายงานขบวนการอาชญากรรมและการทุจริต (OCCRP) และองค์กรสื่ออื่น ๆ อีก 46 แห่ง รวมถึงเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ของสหรัฐ, เดอะ การ์เดียนของอังกฤษ และเลอมงด์ของฝรั่งเศส
ผลการสืบสวนของสื่อมวลชนอ้างว่า กลุ่มลูกค้าของเครดิตสวิสนั้นมีทั้งผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและนักธุรกิจที่ถูกคว่ำบาตร
"เครดิตสวิสขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาและการกล่าวเป็นนัยเกี่ยวกับแนวทางธุรกิจของธนาคาร" เครดิตสวิสระบุในแถลงการณ์ตอบโต้ผลการสืบสวน "กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องในอดีต และคำบอกเหล่านี้ก็อ้างอิงมาจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน คลาดเคลื่อน หรือเลือกเฟ้นมาโดยไม่ใส่ใจบริบท จนได้ผลสืบสวนที่มีการชี้นำเช่นนี้"
เครดิตสวิสระบุว่า OCCRP ได้ดำเนินการสอบเครดิตสวิสหลายต่อหลายครั้งในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาและตรวจสอบบัญชีจำนวนมาก โดย "ประมาณ 90% ของบัญชีที่ได้รับการพิจารณาถูกปิดไปแล้วหรืออยู่ระหว่างกระบวนการปิดบัญชีตั้งแต่ก่อนเปิดรับข้อซักถามของสื่อมวลชน ซึ่งกว่า 60% ปิดไปตั้งแต่ก่อนปี 2558" "ส่วนบัญชีที่ยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เราก็ยินดีที่จะตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ พิจารณา และดำเนินการควบคุมอื่น ๆ ตามกรอบงานในปัจจุบันของเรา โดยเราจะวิเคราะห์ประเด็นดังกล่าวต่อไปและดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น" เครดิตสวิสยืนยัน