สหรัฐพร้อมด้วยชาติพันธมิตรแห่งโลกตะวันตก เห็นพ้องกันที่จะตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ ซึ่งจะทำให้รัสเซียได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างหนัก
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ชาติพันธมิตรตะวันตก ได้แก่ คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐ ร่วมกันออกแถลงการณ์วานนี้ (26 ก.พ.) ว่า "การดำเนินการเหล่านี้จะเป็นการสร้างหลักประกันว่า ธนาคารรัสเซียจะถูกตัดออกจากระบบการเงินสากล ส่งผลให้ไม่สามารถทำธุรกรรมในระดับโลกได้"
การตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT หรือสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินโลก จะทำให้ธนาคารในรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารของประเทศอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ในปี 2557 อิหร่านเคยถูกตัดออกจากระบบ SWIFT มาแล้ว หลังจากที่เดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
นอกจากนี้ สหรัฐและชาติพันธมิตรยังประกาศด้วยว่า พวกเขาจะกำหนดมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารกลางรัสเซียนำเงินสำรองระหว่างประเทศไปใช้ในลักษณะที่อาจบ่อนทำลายการคว่ำบาตร
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.) กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียได้แก่ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ, นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหม และนายวาเลรี เจราซิมอฟ เสนาธิการทั่วไป เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบขาวได้ระบุในทวีตเมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบต่อกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund) ที่เป็นของรัฐบาลรัสเซียด้วย