นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะสร้างความเสียหายต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งทะยานขึ้น อย่างไรก็ดี การสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งทะยานขึ้น ขณะที่ตลาดหลายแห่งเผชิญภาวะผันผวนอย่างรุนแรงหลังรัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนก.พ.
นายนาธาน ชีทส์ นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปให้ความเห็นว่า "หากสถานการณ์ตึงเครียดยังคงยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น เราอาจเห็นการปรับตัวเลขคาดการณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจลดลงอีกในปีนี้"
ทั้งนี้ จีนได้เน้นย้ำถึงการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายอันดับแรก และตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 5.5% ในปีนี้ โดยซิตี้กรุ๊ปเชื่อมั่นว่าระดับนี้จะแข็งแกร่งในทุกตัวชี้วัด แม้ชะลอลงเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาด
ซิตี้กรุ๊ปยังแสงความเชื่อมั่นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่จะส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยในรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง