ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทระดับโลกลงอีกในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้น
ข้อมูลจากบริษัทรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน บรรดานักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ระดับโลกในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลง 0.5%
เมื่อแยกย่อยตามภูมิภาค บริษัทในยุโรปถูกปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการลง 2.8% ขณะบริษัทในเอเชียถูกปรับลดคาดการณ์ลง 0.45% ส่วนบริษัทสหรัฐคาดว่าจะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02%
การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ราคาหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก โดยได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนและผลักดันให้ราคาต้นทุนสินค้าปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทรีฟินิทิฟในเดือนที่ผ่านมานั้นบ่งชี้ว่า ธุรกิจพลังงานและเหมืองแร่เป็นภาคส่วนที่มีการปรับเพิ่มผลประกอบการมากที่สุด ในขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, การเงิน และอสังหาริมทรัพย์ ถูกปรับลดคาดการณ์รายได้ลง