นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นพิธีปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" ชุดที่ 13 ครั้งที่ 5 ในวันนี้ โดยนายหลี่กล่าวว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นตัวเลขเป้าหมายของรัฐบาลสำหรับปีนี้ จะช่วยสร้างผลผลิตให้กับจีนเทียบเท่ากับขนาดของเศรษฐกิจระดับกลาง
นายหลี่กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทั่วโลกในขณะนี้ นับเป็นเรื่องยากที่จีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะสามารถรักษาการเติบโตที่ระดับปานกลาง-สูงเอาไว้ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม จีนยังสามารถบรรลุเป้าหมายและภารกิจหลัก ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปูรากฐานให้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งในปีนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปีนี้ลงเหลือ 5.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่พยายามจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
นายหลี่ยังกล่าวด้วยว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายแบบเปิดกว้าง และจะเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล รวมทั้งจะขยายการปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะเดียวกันจีนจะจัดสรรเงินทุนให้กับพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกล เพื่อพัฒนาการศึกษาภาคบังคับ
นายหลี่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จีนได้เปิดช่องทางพิเศษและช่องทางสีเขียวเพื่อให้ธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนยังคงดำเนินต่อไปได้ และสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทเอกชนและโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่สำคัญจะยังคงดำเนินการได้เป็นปกติ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันจีนจะให้ความสำคัญกับวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในเรื่องการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ช่วยธุรกิจเหล่านี้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
นอกจากนี้ นายหลี่กล่าวว่า จีนจะรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยแนวทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น รวมทั้งจะป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเพื่อปกป้องชีวิต, สุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถยังคงทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ