รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์อาจส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการขนส่งและการผลิตในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนและมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 17.5 ล้านคน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนพบผู้ติดชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกือบ 3,400 รายในวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) ซึ่งสูงกว่าวันก่อนถึง 2 เท่า ส่งผลให้รัฐบาลจีนตัดสินใจล็อกดาวน์หลายพื้นที่ รวมถึงเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน ขณะที่เมืองจี๋หลินประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นบางส่วน ส่วนเมืองหยานจี๋ซึ่งติดกับเกาหลีเหนือได้ล็อกดาวน์แล้วทั้งเมือง
รายงานระบุว่า จีนจะล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นจนถึงวันที่ 20 มี.ค. โดยจะปิดระบบขนส่งรถประจำทางและรถไฟใต้ดินทั้งหมด นอกจากนี้ ภาคธุรกิจในเมืองนี้จะถูกสั่งให้ปิดทำการทั้งหมด ยกเว้นธุรกิจการบริการที่จำเป็น ส่วนบรรดาพนักงานจะถูกร้องขอให้ทำงานจากที่บ้านหากสามารถทำได้ และชาวเมืองเซินเจิ้นจะถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกเมือง
ทั้งนี้ แม้นโยบายโควิดเป็นศูนย์หรือ Covid Zero ทำให้หลายพื้นที่ของจีนไม่พบผู้ติดเชื้อมาเป็นเวลานานในช่วงที่ทั่วโลกเผชิญการระบาดนั้น แต่ขณะนี้นโยบายดังกล่าวของจีนกำลังเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยมีรายงานพบการระบาดเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ ซึ่งทำให้ยากต่อการใช้มาตรการสกัดโควิดเชิงรุก