กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูเครนจะหดตัว 10% ในปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัสเซียบุกยูเครน แต่อาจจะย่ำแย่กว่าที่คาด ถ้าหากความขัดแย้งดังกล่าวยืดเยื้อออกไปอีก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้นก่อนที่ IMF จะอนุมัติกองทุนสำรองฉุกเฉินวงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจของยูเครนอาจหดตัว 25-35% โดยอ้างอิงข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จริงจากประเทศอิรัก เลบานอน และประเทศอื่น ๆ ในช่วงที่อยู่ในภาวะสงคราม
IMF กำลังดำเนินการเพื่อจัดตั้งกองทุนทรัสต์ ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ผู้บริจาคสามารถส่งทรัพยากรต่าง ๆ ไปยังยูเครนได้
เจ้าหน้าที่ IMF ระบุว่า วงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ที่ได้รับอนุมัติในกองทุนสำรองฉุกเฉินคือวงเงินสูงสุดที่ยูเครนสามารถกู้ยืมได้ภายใต้กฎเกณฑ์ในปัจจุบันของ IMF แต่เงินกู้ดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งกระตุ้นให้ผู้บริจาครายอื่น ๆ ช่วยกันบริจาค
นางอิวานนา วลาดโกวา โฮลลาร์ หัวหน้าคณะผู้แทนของ IMF ประจำยูเครนเปิดเผยว่า ทางการยูเครนกำลังพยายามอย่างมากที่จะทำให้เศรษฐกิจและระบบการเงินของประเทศยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในระหว่างสงคราม
เจ้าหน้าที่ IMF ระบุว่า มีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาจากความขัดแย้งที่รุนแรง และเตือนว่าอาจมีการสูญเสียทุนทางกายภาพ (physical capital) และกระแสผู้ลี้ภัยจำนวนมากอาจส่งผลให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจหดตัวลงอย่างชัดเจน ซึ่งอาจทำให้เกิดการล่มสลายของกระแสการค้า และรายได้จากภาษีลดต่ำลง