กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก โดยจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจอ่อนแอลง และทำให้เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
IMF คาดว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนแค่ในวงจำกัด เมื่อพิจารณาจากการที่ประเทศเอเชียไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นกับทั้งสองประเทศ แต่คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปและทั่วโลกจะชะลอตัวลง เนื่องจากรัสเซียและยูเครนต่างก็เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
ทั้งนี้ IMF ระบุว่า ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเกิดขึ้นผ่าน 3 ช่องทางหลัก ๆ ซึ่งได้แก่ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์, เศรษฐกิจของบรรดาประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับผลกระทบรุนแรงเนื่องจากภาวะชะงักงันด้านการค้าและจำนวนผู้ลี้ภัยที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ลดลง รวมทั้งความไม่แน่นอนในหมู่นักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย
รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก และยังเป็นผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่สุดของโลกด้วย
นอกจากนี้ ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างก็เป็นผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ โดยทั้งสองประเทศส่งออกข้าวสาลีรวมกันในสัดส่วนสูงถึง 30% ของยอดการส่งออกข้าวสาลีทั่วโลก
IMF ระบุว่า ประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณและขาดดุลการค้า รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นอย่างมากยังอาจทำให้เกิดเหตุการณ์จลาจลในภูมิภาคบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแอฟริกา, ลาตินอเมริกา และเอเชียกลาง
สำหรับในเอเชียนั้น IMF คาดว่าประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าปิโตรเลียมจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยประเทศเหล่านี้ได้แก่สมาชิกกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน), อินเดีย และบางประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก
ส่วนจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้น คาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในทันทีจะน้อยกว่า เนื่องจากจีนมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังซึ่งจะช่วยให้จีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ระดับ 5.5% ในปีนี้ ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อาจสามารถลดผลกระทบได้ด้วยการใช้มาตรการอุดหนุนราคาน้ำมัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า IMF มีแผนที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในเดือนหน้า เนื่องจากผลกระทบของการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งได้จุดปะทุให้สหรัฐ, สหภาพยุโรป และบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐรวมถึงญี่ปุ่น พากันคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
ส่วนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2565 ลง 0.5% สู่ระดับ 4.4% อันเนื่องมาจากภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและจีน