ประธานาธิบดีโคฐาภยะ ราชปักษะ แห่งศรีลังกาได้ออกมาเปิดเผยว่า ศรีลังกาจะทำงานร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายลดการขาดดุลการค้าไว้ประมาณ 14% ในปีนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของศรีลังกาลดลง 70% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สู่ระดับ 2.31 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ประเทศประสบปัญหาเรื่องการชำระค่าสินค้านำเข้า รวมถึงอาหารและเชื้อเพลิง
"ผมตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับ IMF หลังพิจารณาผลได้และผลเสียแล้ว" ปธน.ราชปักษะแถลง
"เราต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยเราได้เริ่มหารือกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงบรรดามิตรประเทศเกี่ยวกับการผ่อนชำระเงินกู้ของเรา"
นอกจากนี้ ปธน.ราชปักษะได้กล่าวว่า ศรีลังกาจะพยายามลดยอดขาดดุลการค้าสู่ 7 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ จาก 8.1 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา และรัฐบาลประเมินว่าต้องใช้เงินช่วยเหลือ 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อพยุงสถานะการเงินของประเทศ ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
หาก IMF ตัดสินใจปล่อยเงินกู้ต่อ ก็จะกลายเป็นมาตรการช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 17 ที่ IMF อนุมัติให้กับศรีลังกา ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเงื่อนไขมากมาย เช่น การปฏิบัติตามเป้าหมายทางการคลังอย่างเข้มงวด