นายลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวในปีนี้ แต่ทางการก็พร้อมที่จะปรับใช้นโยบายการเงินและการคลังเพิ่มเติม หากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 3-5% ในปี 2565 แต่ตัวเลขดังกล่าวได้รับการประเมินก่อนที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายหว่องกล่าวในการประชุมภาคธุรกิจว่า "จากสมมติฐานและการคาดการณ์พื้นฐานของเรานั้น เรายังคงมองว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ ... แต่ถึงเช่นนั้นก็ไม่สามารถตัดความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายลงได้ หรือสถานการณ์ที่เราอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย"
"หากสถานการณ์ในยูเครนเริ่มเลวร้ายลง และเราเล็งเห็นผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจหรืออัตราเงินเฟ้อ เราก็จะไม่ลังเลที่จะดำเนินการมากกว่านี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้นโยบายการเงินหรือการคลัง เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ"
นายหว่องกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเฝ้าติดตามผลกระทบของวิกฤตยูเครนที่มีต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยภาคครัวเรือน แรงงาน และบริษัทต่าง ๆ จะเริ่มเห็นประโยชน์จากมาตรการการคลังที่ประกาศในงบประมาณเดือนกุมภาพันธ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า