กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.6 ล้านล้านเยน (1.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.พ. ลดลง 42.5% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าพลังงานเพิ่มสูงขึ้น
รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังระบุว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากยอดขาดดุลการค้าในเดือนก.พ.ที่ลดลงจากเดือนม.ค.
สำหรับยอดการนำเข้าของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 34.2% แตะที่ 7.5 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 โดยต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 93.2% และต้นทุนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวพุ่งขึ้น 65.3%
ส่วนยอดการส่งออกเพิ่มขึ้น 19.8% แตะที่ 7.3 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่แข็งแกร่งสำหรับเหล็กและเหล็กกล้า, เชื้อเพลิงเช่นน้ำมันดีเซล และรถยนต์
กระทรวงการคลังระบุว่า ยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 1.768 แสนล้านเยน หลังจากขาดดุล 1.6 ล้านล้านเยนในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ระบุเสริมว่า ยอดขาดดุลการค้าลดลงจากเดือนม.ค. เนื่องจากยอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลง โดยในช่วงก่อนและระหว่างวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะควบคุมการส่งออกไปยังจีน แต่เพิ่มการส่งออกมากขึ้นเมื่อวันหยุดสิ้นสุดลง