บริษัททวิตเตอร์ ประกาศยอมรับข้อเสนอของนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา ที่ต้องการซื้อกิจการของทวิตเตอร์มูลค่า 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์
นายเบรต เทย์เลอร์ ประธานกรรมการของทวิตเตอร์กล่าวว่า "คณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ยอมรับข้อเสนอการซื้อกิจการของนายอีลอน มัสก์ หลังจากที่ได้ทำการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว โดยมุ่งเน้นถึงมูลค่า ความแน่นอน และด้านการเงิน การทำธุรกรรมครั้งนี้จะอยู่ในรูปของเงินสด และเราเชื่อว่านี่จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์"
ทวิตเตอร์เปิดเผยว่า การทำธุรกรรมขายกิจการครั้งนี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริหาร และคาดว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ หลังได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแล
ด้านนายอีลอน มัสก์ได้ทวีตข้อความว่า "ผมคาดหวังไว้ว่าเสรีภาพในการพูดจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่ออนาคตของทวิตเตอร์ แม้ว่าตัวผมเองจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนทวิตเตอร์ นั่นก็เพราะผมให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการพูด"
"เสรีภาพในการพูดถือเป็นรากฐานที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ และทวิตเตอร์จะเป็นเหมือนกับจัตุรัสกลางเมืองดิจิทัลที่เปิดกว้างให้ผู้คนเข้ามาร่วมอภิปรายเรื่องสำคัญต่ออนาคตของมนุษยชาติ นอกจากนี้ ผมต้องการปรับปรุงทวิตเตอร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วยการสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ, สร้างอัลกอริทึมแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ, กำจัดสแปมในรูปของบอต และให้การรับรองตัวตนของผู้ใช้งานทุกคน" นายมัสก์กล่าวหลังประกาศซื้อกิจการทวิตเตอร์
ข่าวดังกล่าวถือเป็นการยุติความไม่แน่นอนในช่วงก่อนหน้านี้ จากการที่คณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์พยายามขัดขวางแผนการซื้อกิจการของนายอีลอน มัสก์ โดยใช้มาตรการที่เรียกว่า "poison pill" เพื่อขัดขวางแผนการครอบงำกิจการแบบปรปักษ์ของนายอีลอน มัสก์
นอกจากนี้ ข่าวการบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ยังส่งผลให้ราคาหุ้นทวิตเตอร์ปิดตลาดพุ่งขึ้น 5.66% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นเกือบ 1.3% ในวันจันทร์ (25 เม.ย.)