บริษัทเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) รายงานในวันนี้ (28 เม.ย.) ว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนในประเทศจีนลดลง 14% ในไตรมาส 1/2565 สู่ระดับ 74.2 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2563
วีโว่ (Vivo) ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในจีนสูงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 19.7% รองลงมาคือออปโป้ (Oppo) อยู่ที่ 18% และอันดับสามเป็นของแอปเปิล (Apple) อยู่ที่ 17.9%
ส่วนออเนอร์ (Honor) อดีตบริษัทในเครือของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ มีส่วนแบ่งตลาดในจีนสูงเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 16.9% ขณะที่ผลประกอบการของออเนอร์มีการขยายสูงสุดในไตรมาสแรก แม้ว่ายอดขายมือถือโดยรวมในจีนลดลง 14% เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ขายธุรกิจออเนอร์ให้กับกลุ่มบริษัทตัวแทนจำหน่ายและดีลเลอร์เมื่อเดือนธ.ค. 2563 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ตโฟนของหัวเว่ย โดยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยในจีนอยู่ที่เพียง 6.2% ในไตรมาส 1 หลังจากที่เคยเป็นแบรนด์ขายดีที่สุดในจีน
การประกาศขายธุรกิจออเนอร์ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนราคาถูกนั้นเกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศห้ามไม่ให้บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐขายอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับหัวเว่ย โดยอ้างว่ามีความกังวลเรื่องความมั่นคง แม้หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวก็ตาม
รายงานของเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ชระบุว่า ยอดขายปลีกสมาร์ตโฟนในมณฑลกวางตุ้งและเจียงสูชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 1 ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็มียอดขายชะลอตัวลงเช่นกัน