บริษัทแอปเปิลเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2565 โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.52 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของเรฟินิทีฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 1.43 ดอลลาร์ ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 8.59% สู่ระดับ 9.728 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.389 หมื่นล้านดอลลาร์
รายได้จากผลิตภัณฑ์ iPhone เพิ่มขึ้น 5.5% แตะที่ 5.057 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.788 หมื่นล้านดอลลาร์
รายได้จากการบริการพุ่งขึ้น 17.28% แตะที่ 1.982 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.972 หมื่นล้านดอลลาร์
รายได้จากผลิตภัณฑ์ Mac เพิ่มขึ้น 14.73% แตะที่ 1.044 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 9.25 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากผลิตภัณฑ์ iPad ลดลง 1.92% แตะที่ 7.65 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 7.14 พันล้านดอลลาร์
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) อยู่ที่ 43.7% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 43.1%
ทั้งนี้ แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3/2565 โดยแอปเปิลตัดสินใจไม่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการมานับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นแอปเปิลร่วงลงเกือบ 4% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ หลังจากนายลูคา แมสทรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของแอปเปิลเตือนว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ของบริษัทอาจเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน รวมถึงปัญหาติดขัดด้านอุปทานอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของแอปเปิลราว 4-8 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ แอปเปิลยังเตือนว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์แอปเปิลในประเทศจีนอาจชะลอตัวลง เนื่องจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของจีน