เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มหดตัวลงในไตรมาส 1/2565 เนื่องจากฮ่องกงบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดและการระบาดที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ก่อให้เกิดภาวะชะงักงันในการทำการค้ากับฮ่องกง
ทั้งนี้ การประมาณการเฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ 11 คนในผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฮ่องกงนั้นมีแนวโน้มจะหดตัว 1.3% ในไตรมาส 1/2565 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยจะเป็นการหดตัวครั้งแรกของฮ่องกงนับตั้งแต่สิ้นปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ฮ่องกงประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งประวัติศาสตร์ที่กินเวลายาวนานถึง 2 ปี
รายงานระบุว่า มีสัญญาณความเสียหายทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรงหลากหลายประการในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โดยยอดค้าปลีกร่วงถึง 14% ในเดือนก.พ. และยอดส่งออกดิ่งลง 8.9% ขณะที่ในเดือนมี.ค. ฮ่องกงบังคับใช้มาตรการจำกัดทางสังคมที่เข้มงวดในไตรมาสแรกของปีนี้ อาทิ การห้ามรับประทานอาหารภายในร้านหลังเวลา 18.00 น. รวมถึงการปิดโรงยิมและร้านเสริมความงาม เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนเสียชีวิตหลายพันคนและติดเชื้ออีกกว่า 1 ล้านคน
อย่างไรก็ดี ภาวะเศรษฐกิจฮ่องกงนั้นส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระบาดของจีนแผ่นดินใหญ่และการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความยากลำบากให้กับการขนส่งสินค้าไปมาระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า ยอดส่งออกจากฮ่องกงไปจีนแผ่นดินใหญ่ ลดลง 12.8% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นอกเหนือไปจากนั้น ฮ่องกงกำลังเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และธนาคารกลางฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตาม เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ