เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะอนุญาตให้ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านทำผม เริ่มกลับมาดำเนิการได้อีกครั้งตั้งแต่วันนี้ (16 พ.ค.) หลังจากที่ธุรกิจเหล่านี้ถูกล็อกดาวน์เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน
นายเฉิน ตง รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ห้างสรรสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านทำผม จะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง โดยให้อยู่ภายใต้การจัดการที่เป็นระเบียบซึ่งรวมถึงการจำกัดจำนวนผู้รับบริการ ส่วนตลาดค้าผักผลไม้และสินค้าเกษตรจะอนุญาตให้เปิดดำเนินการเช่นกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด "ห้ามสัมผัส" เมื่อมีการทำธุรกรรมซื้อขาย ขณะที่ภัตตาคารจะได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการสำหรับลูกค้าที่ซื้ออาหารกลับบ้าน
สำหรับชาวเซี่ยงไฮ้ที่ได้รับอนุญาตให้กับไปทำงานนั้น จะต้องอยู่ภายใต้ระบบปิด เช่นเดียวกับที่จีนนำระบบดังกล่าวมาใช้เมื่อครั้งที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง ซึ่งหมายความว่าประชาชนเหล่านี้จะไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ แต่ต้องพักอาศัยอยู่ในที่ทำงาน
อย่างไรก็ดี หน่วยงานด้านการขนส่งของเซี่ยงไฮ้ระบุว่า เส้นทางรถไฟใต้ดินทุกแห่งยังคงปิดให้บริการ และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถกลับมาให้บริการได้อีกเมื่อใด
ที่ผ่านมานั้น เซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรจำนวนมากถึง 25 ล้านคนอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานาน จนส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจจีน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ของจีนร่วงลงสู่ระดับ 47.4 จากระดับ 49.5 ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการทรุดตัวลงสู่ระดับ 41.9 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 48.4 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนเผชิญภาวะหดตัว