นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนลงสู่ระดับ 4% ในปี 2565 ซึ่งต่ำตัวเลขเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5% หลังจากข้อมูลเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ
นายฮุย ชาน และทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า "เมื่อพิจารณาจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 ในไตรมาส 2 ทำให้เราคาดว่าตัวเลข GDP ตลอดปี 2565 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.5% โดยการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่า รัฐบาลจีนอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือไปจากการสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19"
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ร่วงลง 11.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 6.1% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ลดลง 2.9% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
ส่วนยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 14.7%
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดในการรักษาเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ รวมทั้งข่าวล่าสุดที่ว่า จีนจะไม่สามารถเป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันกีฬาเอเชียนคัพในช่วงฤดูร้อนปีหน้าได้ เนื่องจากจีนยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์
"เราไม่คาดว่าจีนจะสามารถกลับมาเปิดประเทศได้ก่อนไตรมาส 2 ของปี 2566 และกระบวนการที่จีนจะกลับมาเปิดประเทศนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและอยู่ภายใต้การควบคุมมากกว่าที่เราเคยตั้งสมมติฐานไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่าตัวเลข GDP จีนในปี 2566 จะขยายตัวเพียง 0.25% สู่ระดับ 5.3% เทียบกับตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 5%" โกลด์แมน แซคส์ระบุ