กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (19 พ.ค.) ว่า ยอดส่งออกในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 หลังจากพุ่งขึ้น 14.7% ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 13.8% โดยยอดส่งออกได้แรงหนุนจากอุปสงค์เหล็กและแร่เชื้อเพลิงที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ
ส่วนยอดนำเข้าเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 28.2% เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 35.0% เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้ยอดนำเข้าสูงขึ้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 8.392 แสนล้านเยน (6.56 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ว่าจะขาดดุล 1.150 ล้านล้านเยน โดยญี่ปุ่นยังคงขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
สำหรับยอดส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.1% และ 17.6% ตามลำดับ เนื่องจากมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับเหล็ก, รถยนต์ และอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ส่วนยอดส่งออกไปยังจีน ลดลง 5.9% ในเดือนเม.ย.