นายเอส อิสวารัน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์เผยว่า สิงคโปร์จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลับมาเปิดพรมแดนเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ถึงแม้จะมีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นก็ตาม
นายอิสวารันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า สิงคโปร์เรียนรู้การรับมือโควิด-19 จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในช่วงที่ไวรัสโอมิครอนระบาดอย่างหนัก สิงคโปร์ก็ไม่ได้เลื่อนกำหนดแผนการเปิดประเทศ แต่ตัดสินใจที่จะรอประเมินสถานการณ์ในช่วงท้าย โดยระบุว่า การรับมือโอมิครอนนั้นแตกต่างจากช่วงที่ไวรัสเดลตาระบาด
นอกจากนี้ นายอิสวารันยังกล่าวในการประชุมชางงี เอวิเอชัน ซัมมิต (Changi Aviation Summit) ว่า "เราได้เรียนรู้ที่จะปรับตัว เรามีเครื่องมือมากมายที่จะหยิบมาใช้ ไม่ใช่แค่ค้อน แต่มีประแจและไขควง และอีกสารพัดเครื่องมือ ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์และความเสี่ยงว่าจะหยิบอะไรมาใช้ แล้วจึงค่อยปรับมาตรการให้เหมาะสม"
ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ในเอเชียที่เปิดพรมแดนหลังโควิดระบาด โดยอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วในประเทศที่กำหนดสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว เพื่อช่วยฟื้นฟูภาคธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวของประเทศ
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้ยกเลิกข้อจำกัดอย่างต่อเนื่อง โดยสนามบินชางงีกำลังดำเนินการเพื่อรองรับดีมานด์การเดินทาง
รายงานยังระบุว่า ปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินชางงีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ของช่วงก่อนที่โควิด-19 จะระบาดในเดือนพ.ค.นี้ เทียบกับในเดือนมี.ค.ที่มีผู้โดยสารไม่ถึง 20%