ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
-- คาดตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดในแดนบวก หลังดัชนีฟิวเจอร์ตลาดหุ้นฮ่องกงและญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น
-- เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 ราย โดยโรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอุลซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้
เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ทางหน่วยงานได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันออนซาน (Onsan) ของบริษัทเอส-ออยล์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเมืองอุลซาน ห่างจากกรุงโซลประมาณ 414 กิโลเมตร
เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่คนงานของบริษัทอยู่ในระหว่างการทดสอบกระบวนการแอลคิเลชัน (Alkylation processing) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามขั้นตอนการบำรุงรักษาโรงกลั่น
-- ผู้บริหารของแอปเปิลได้พรีวิวอุปกรณ์ความเป็นจริงผสม (MR) แก่คณะกรรมการบริษัท ซึ่งส่งสัญญาณว่าแอปเปิลใกล้จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้แล้ว นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้เร่งพัฒนาระบบปฏิบัติการ rOS (reality operating system) หรือระบบปฏิบัติการรองรับเทคโนโลยีความเป็นจริง ซึ่งจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับอุปกรณ์ตัวใหม่นี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อุปกรณ์ตัวใหม่นี้มีหน่วยประมวลผลขั้นสูงและหน้าจอความละเอียดสูง โดยอาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในหลายเดือนข้างหน้า
-- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 พ.ค. หลังจากที่ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศได้บรรเทาลง
ก่อนหน้านี้ ปธน.วิโดโดประกาศห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อประชาชน และส่งผลให้นักศึกษาออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 525,333,629 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,296,018 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.4% สู่ระดับ 5.61 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 5.9% ในเดือนเม.ย.
ยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ขณะที่สต็อกบ้านอยู่ในระดับต่ำ
Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ Conference Board ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้สู่ระดับ 2.3% โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ อันเนื่องจากราคาพลังงาน, อาหาร และโลหะที่พุ่งขึ้นจากสงครามในยูเครน รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการขาดแคลนแรงงาน
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., อังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. และอียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.