กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะออกคำสั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลรัสเซียชำระหนี้ให้กับผู้ถือพันธบัตรผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐ โดยจะเริ่มตั้งแต่เช้าวันพุธที่ 25 พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้
มาตรการดังกล่าวถือเป็นการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดที่สหรัฐประกาศใช้เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้อนุญาตให้ยกเว้นการคว่ำบาตรต่อธนาคารกลางรัสเซียเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสามารถชำระหนี้ให้กับผู้ถือพันธบัตรผ่านทางธนาคารสหรัฐและธนาคารทั่วโลกได้ แต่แถลงการณ์ชื่อ Notice on Russian Harmful Foreign Activities Sanctions General License 9C ที่ออกโดยกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ข้อยกเว้นดังกล่าวจะหมดอายุลงในเวลา 00.01 น.ตามเวลาสหรัฐในวันนี้ หรือตรงกับเวลาไทยประมาณ 11.01 น.
ฝ่ายวิจัยของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคระบุว่า รัสเซียมีกำหนดชำระหนี้พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์มูลค่าเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 มิ.ย.และ 24 มิ.ย.นี้
ทางด้านนายทิโมธี แอช นักยุทศาสตร์ด้านการลงทุนของบริษัทบลูเรย์ แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างชาติ (OFAC) ในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจและการค้านั้น สามารถสั่งระงับไม่ให้รัสเซียชำระหนี้พันธบัตรผ่านทางสถาบันการเงินในฝั่งตะวันตกได้ทุกเวลา ซึ่งจะทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้ได้ทุกเวลาเช่นกัน