นายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลกเปิดเผยเมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) ว่า สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับราคาอาหารและพลังงาน รวมถึงการขาดแคลนปุ๋ยนั้น อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
นายมัลพาสเปิดเผยในงานซึ่งจัดโดยหอการค้าสหรัฐว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกนั้น ได้ชะลอตัวลงอย่างมาก เนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมทั้งระบุว่า การผลิตปุ๋ยที่ลดลงอาจซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ให้ย่ำแย่ลงไปอีก
"เมื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก (global GDP)...มันยากที่เราจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย" นายมัลพาสกล่าว พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของยูเครนและรัสเซียจะหดตัวลงอย่างมาก ในขณะที่เศรษฐกิจยุโรป, จีน และสหรัฐ จะชะลอตัวลง
นายมัลพาสกล่าวว่า ประเทศกำลังพัฒนากำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนปุ๋ย อาหาร และพลังงาน และระบุว่า "ลำพังราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย"
นอกจากนี้ นายมัลพาสกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงค่อนข้างรุนแรงในจีนนั้นเกิดจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19, ภาวะเงินเฟ้อ และวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จีนกำลังเผชิญอยู่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้วธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2565 ลงเกือบ 1% เหลือ 3.2% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 4.1% อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน